มาเล่นกันมั่งนะ www.ekkapan.igetweb.com

วันเสาร์ที่ 9 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2551

อีกหนึ่งปีที่ผ่านไป...

หนึ่งปีที่ผ่านมา
เป็นปีที่มาพร้อมกับการเปลี่ยนแปลงมากมาย
ซึ่งก็มาพร้อมกับการเปลี่ยนโรงเรียนนั่นเอง
ทั้งเพื่อนใหม่ ครูใหม่ สภาพแวดล้อมใหม่
และสิ่งแปลกใหม่อีกหลายอย่างที่ผมต้อง
ปรับตัวเข้าหา

ก็เป็นอะไรที่น่ากังวลอยู่
ก่อนการเข้าไปเรียนในโรงเรียนที่ได้ชื่อว่า
ดีที่สุดในประเทศในเรื่องต่างๆ เช่นจะกดดัน
เครียดรึเปล่า หรือจะเรียนยากหรือไม่

ในภายภาคต่อมา เมื่อผมพบว่า
เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็วมากๆ
(เร็วกว่าทุกปีที่ผ่านมา)
ผมจึงได้รับรู้ในที่สุดว่า
ผมมีความสุขที่ได้เข้ามาใช้ชีวิต
ในโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา
แล้วก็ใช้ชีวิตผ่านช่วงเวลาที่แปลกใหม่
ไปได้ด้วยดี

ช่วงนี้ก็ใกล้สอบปิดภาคเรียนแล้ว
เพื่อนๆแต่ละคนก็มีปฏิกิริยาและการกระทำ
เกี่ยวกับเรื่องนี้แตกต่างกันออกไป
แน่นอนว่าบางคนก็ตั้งใจอ่านหนังสือ
อย่างแข็งขันตามสไตล์ของเด็กเรียน
แต่ส่วนใหญ่ก็ไม่ บางคนถึงกับทำเหมือน
ยังไม่มีอะไรผิดปกติหรือจะมีอะไรเกิดขึ้น
เลยด้วยซ้ำ ยังสนุกเฮฮา ขำๆกันอยู่โดย
ไม่คำนึงถึงหายนะ(สำหรับบางคน)
ที่กำลังใกล้เข้ามา เหอะๆ

พอสอบเสร็จก็คงจะได้ปิดเทอมแล้ว
สบายไปอีกสอง สามเดือน เห้อ
รู้สึกเหมือนเพิ่งไปสมัครสอบเข้า
โรงเรียนใหม่ๆ

ช่วงเวลานี้ก็คงเป็นเวลาที่สำคัญที่สุด
สำหรับชีวิตม.สี่ ที่เหลืออยู่
ต้องแบ่งเวลาที่เหลืออยู่นี้อย่างมาก
เพื่อให้ผลสอบออกมาดีส่งท้าย
เพราะมันจะส่งผลต่อการจัดห้องในปีหน้า
โดยตรง

เราก็คงทำอะไรไม่ได้นอกจาก
ทำสิ่งที่ทำได้วันนี้ให้ดีที่สุด

วันจันทร์ที่ 4 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2551

... ของ 945

ช่วงนี้รู้สึกว่าห้อง 945 มันแปลกประหลาดพิกลยังไงก็ไม่รู้
มีแต่เรื่องประหลาดๆ ไม่ค่อยตรงกับภาพลักษณ์ของโรงเรียน
แล้วส่วนใหญ่ก็ไม่ค่อยจะน่าชื่นชมยกย่องเสียด้วย

ยกตัวอย่างเช่น อบายมุขต่างๆ
psp ดึงดูดชายหนุ่มจากทั่วทุกมุมห้องให้มา
จดจ่ออยู่กับมันได้ทุกช่วง ทุกเวลา ไม่เว้นมาแต่ในคาบเรียน
และแม้จำเป็นจะต้องใช้ไฟฟ้าของโรงเรียนขณะที่อาจารย์สอนก็ตาม
555 (ช่างด้านดีแท้) ก็อย่างว่า เมื่อมันมีสิ่งดึงดูด
มนุษย์ปุถุชนธรรมดา ซึ่งยังมีกิเลสอยู่ ก็ย่อมจะมีใจเบี่ยงเบน
และประพฤติในทางที่ผิดได้
ก็ยังนับว่าโชคดีที่ในที่สุด มันก็หายไปจากห้องได้ เพื่อนๆทั้งหลายจึง
ยังไม่ตกต่ำมาก

ต่อมาก็ไพ่
คราวนี้ทั้งห้องเรย ไม่เว้นหญิง ชาย วันแรกๆก็ยังกระจุกอยู่กลุ่มเดียว
ไปๆ มาๆ วงกลับขยายกว้าง
จนปัจจุบัน มีสองสามวงเป็นที่เรียบร้อย
แต่ก็ยังดีนะ ที่มันยังเป็นแค่ความบันเทิง มิใช่สิ่งอื่น
จะว่าไป ไพ่ถ้าเล่นสนุกๆ ไม่พนัน นี่ก็ติดน่าดู

ช่วงนี้ยังดีนะครับ ไม่ค่อยมีใครสนใจคอมประจำห้อง
มิเช่นนั้นคงมีคนเล่นเกมพิกาจูวอลเลย์บอล สลับกับการเล่นสลาฟ
555

อีกด้านหนึ่งที่รู้สึกว่าจะเป็นเรื่องใหญ่(มากๆ) คือเกย์
รู้สึกว่าเชื้อจะแพร่พันธุ์เร็วมาก
ผมก็ไม่แน่ใจว่ามันเริ่มมาจากใคร
รู้แต่ว่า ตอนนี้มีผู้ชายที่ออกจะบิดเบี้ยวหลายคนอยู่
ถึงขนาดมีคนสร้างข่าวลือว่า
มีนักเรียนชายในห้องสองคน
เข้าไปอาบน้ำด้วยกันแล้ว _ เห้อ
ยังดีที่มันไม่ใช่เรื่องจริง

ผมรู้สึกว่าห้องเรียนในปัจจุบันออกจะมีสีสันอยู่พอสมควร
แต่มันก็เป็นสิ่งที่ดีทำให้เราไม่เคร่งเครียดกับเรื่องเรียน
จนเกินไป
ออกจะดีด้วยซ้ำที่พอมีกิจกรรมให้ทำ
เพื่อนๆทั้งห้องก็จะได้มีความผูกพัน
และมีความสนิทสนมกันมากยิ่งขึ้น เพื่ออนาคตกับ
การใช้ชีวิตในโรงเรียน

!! ว่าด้วยเรื่องเรียนพิเศษ !!

ในช่วงเดือนที่ผ่านมา (มกราคม) และเดือนกุมภาพันธ์นี้เอง
จะเห็นได้ว่าเป็นช่วงเวลาที่วิ่งวุ่นดีแท้สำหรับการลงทะเบียน
และโอนเงิน เพื่อสมัครที่เรียนพิเศษ
เด๋วนี้โรงเรียนกวดวิชาช่างขายดีกันเหลือเกิน
ยอดขายตรงข้ามกับอาชีพค้าขายอื่นๆ ซึ่งยอดขายตก
เพราะเศรษฐกิจตกต่ำตามที่คุณตันหยงพาดพิง -_-
อย่างเหลือหลาย

เอาเป็นว่าเห็นแล้วก็รู้สึกอิจช้า อิจฉา พวกอาจารย์กวดวิชา
ที่เงินไหลมาเทมาอย่างไม่ขาดสาย และลูกค้าก็มีแต่จะเพิ่ม
จำนวนขึ้นเรื่อยๆ จากเมื่อก่อนมีแต่เด็ก ม.ปลาย ตอนนี้ขยาย
ไปถึงเด็ก ม.ต้น แล้วก็เลยไปถึงประถมเป็นที่เรียบร้อย
ลองนึกภาพเด็กประถมต้น หรืออนุบาลเดินทางมาเรียนกวดวิชา
คงเป็นอะไรที่พิลึก แต่ก็ไม่แน่ ใครจะรู้ว่าอีกหน่อยกวดวิชาจะ
ขยายไปถึงไหน
เดี๋ยวนี้มีการสร้างตึกใหม่ซะด้วย ทุ่มทุนสร้างและมันก็แสดง
ให้เห็นถึงความเฟื่องฟูของยุคแห่งการกวดวิชา

ตอนม.ต้น ผมไม่ค่อยจะเข้าใจเอาซะเลยว่าทำไมมันจะต้อง
ไปเรียนพิเศษกันมากมายนักหนา
ตอนเด็กๆ ไม่เห็นจะมีใครไปเรียนกันเลย แถมก็ยังเอาตัวรอด
ในการเรียนมาได้ทุกคน ไปเรียนแค่ตอนสอบเข้าก็พอแระ
แต่ไปๆมาๆทำไมพอเรียนไปๆ แล้วมันรู้สึกว่ากวดวิชาสำคัญขึ้นมา
ก็ไม่รู้
ไม่เรียนแล้วการเรียนมันเน่าๆพิกล
หลายคนคงมีคำตอบอยู่ในใจว่ามันเกิดอะไรขึ้นมา
และสาเหตุเพราะอะไร...
เอาเป็นว่าคิดกันเองแล้วกัน 555
เขียนวิจารณ์ใครไปมันก็คงจะไม่ดีอ่านะ
ท่านผู้อ่านท่านใดที่คิดว่าสามารถช่วยในการแก้ปัญหาได้
ก็ขอความกรุณาช่วยกันร่วมมือร่วมใจ(เอ.. ใช้คำถูกป่าววะ พอดีภาษาไทยเน่า)
ช่วยกันแก้ไขปัญหาหน่อยแล้วกันนะครับ
เพราะผมคิดว่า ในท้ายที่สุดแล้ว
ถ้าการเรียนในห้องเรียน และปัจจัยโดยรอบสามารถส่งเสริม
ให้เด็กมีการเรียนรู้ที่ดี และมีประสิทธิภาพอย่างเป็นที่น่าพอใจได้
ก็คงไม่มีใครอยากจะไปไขว่คว้าหาที่เรียนพิเศษเพื่อให้มันเหนื่อยเพิ่มหรอกครับ
จริงมั้ย..(พาดพิงจนได้ เหอะๆ)

ว่าแต่ ตกลงว่าเรียนฟิสิกส์ที่ไหนดีที่สุดกันแน่เนี่ย
ยังงงงง ตัดสินใจลงไม่ได้
ใครช่วยให้ความกระจ่างที